วันอาทิตย์ที่ ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

วิทยากรอาสา

หลังจากที่ผมได้รับคัดเลือกให้เป็นวิทยากรอาสารุ่นที่ 5 ของสถาบันพัฒนาความรู้ตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ TSI ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษา 50 ก็เพิ่งมีวันนี้ที่พอมีเวลาได้เข้าร่วมในการติวเข้มสำหรับวิทยากรรุ่นใหม่อย่างผม จริงๆแล้วเค้ามีจัดกันไปครั้งนึงแล้วตอยปลายเดือนเมษา แต่พอดีตอนนั้นผมติดงานอื่นอยู่ก่อนแล้ว เลยไม่ได้เข้าร่วมด้วย

การเข้าไปนั่งฟังวิทยากรรุ่นพี่เค้าสอนในครั้งนี้มันมีความต่างจากตอนที่เราเข้าไปฟังในฐานะผู้เข้าสัมมนาคนนึงมาก เพราะตอนที่เราเป็นผู้เข้าสัมมนา เราจะโฟกัสเฉพาะแต่ตัวเนื้อหาว่ามันมีอะไรน่าสนใจ อะไรที่เรายังไม่รู้ อะไรที่เราอยากรู้เพิ่มเติม และเราจะเอาความรู้นั้นไปใช้ประโยชน์ยังไงได้บ้าง แต่มาวันนี้เราฟังเรื่องเดียวกัน หลักสูตรเดียวกันในมุมที่ต่างไป วันนี้เราต้องเรียนในมุมที่ว่า เนื้อหาตามสไลด์พรีเซนเตชั่นอันนึง มันจะมีวิธีการนำเสนอยังไงให้มันน่าสนใจ แล้วถ้าผู้ฟังที่มีพื้นฐานแตกต่างกัน เราจะสื่อยังไงให้โดนใจ กว่าจะมาเป็นสไลด์นึงๆ กว่าจะมาเป็นการบรรยายเวลาแค่ 15 นาที ผู้บรรยายต้องเตรียมตัวอะไรมากน้อยแค่ไหน สมัยก่อนไม่เคยได้สนใจเรื่องเล่านี้เลย วันนี้ต้องมาเรียนด้วยมุมมองใหม่

จริงตอนที่อยู่ในช่วงอบรมหลักสูตร Train the Trainer ก็มีเรียนไปบ้างเเล้วว่าต้องเตรียมตัวยังไง แต่เพิ่งมีคราวนี้ที่ได้ปรับมุมการเรียนรู้ใหม่ จากนี้ของต้องจัดเวลาไปเข้าร่วมฟังบรรยายในหลักสูตรต่างๆ ของ TSI ที่วิทยากรรุ่นพี่เค้าบรรยายอยู่ หลักสูตรที่เราเคยเข้าไปแล้วแหละ แต่เข้าไปด้วยการเรียนรู้เรื่องในมุมใหม่ เรียนรู้การที่เราจะต้องไปเข้าร่วมหลักสูตรนั้นอีกครั้ง แต่ในฐานะของวิทยากรบนเวที ไม่ใช่ในฐานะของผู้ฟัง

สำหรับมุมมองส่วนตัวผมต่อระบบวิทยากรอาสานี้ ผมว่าเป็นระบบที่น่าสนใจมาเพราะตัว TSI เองก็สามารถเพิ่มจำนวนวิทยากรเพื่อที่จะขยายจำนวนนักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการลงทุนในประเทศเราได้จำนวนมหาศาล โดยไม่ติดข้อจำกัดในเรื่องของบุคคลากร ซึ่งถ้าใช้วิทยากรที่เป็นพนักงานประจำ การเพิ่มจำนวนระดับนี้คงต้องมีความไม่คล่องตัวเรื่องการบริหารบุคคลากรแน่นอน

แต่เมื่อใช้ระบบคัดเลือกวิทยากรอาสา ก็สามารถสกรีนคัดเอาคนที่มีความรู้ความสามารถตรงตามที่ต้องการได้ และแถมทุกคนที่เข้ามานี้ก็มีใจที่พร้อมจะเสียสละทำงานตรงนี้อยู่แล้ว ที่เหลือทาง TSI ก็แค่ดูแลรับผิดชอบระบบสนับสนุนต่างๆให้แก่วิทยากรเท่านั้น ทีมวิทยากรเองก็อยู่กันอย่างพี่น้องเพราะไม่มีเรื่องผลประโยชน์ว่าใครจะเติบโตกว่าใคร พี่ๆก็ยินดีช่วยเหลือวิทยากรรุ่นน้อง

สำหรับผมแล้ว ระบบนี้ก็ตอบโจทย์ส่วนตัวของผมเองที่ว่าอยากเป็นฟันเฟืองตัวนึงที่ช่วยผลักดันให้คนไทยมีความฉลาดทางการเงินมากขึ้น ซึ่งถ้าให้ผมต้องสมัครเข้าไปเป็นพนักงานของ TSI หรือของตลาดหลักทรัพย์เพื่อให้ได้ทำงานตรงนี้แล้วละก้อ บอกได้ว่าผมคงไม่เอาหรอกครับ การเดินกลับไปใช้ชีวิต Employee มันไม่อยู่ในหัวของผมเลยแม้แต่น้อย แต่ถ้าลักษณะงานเป็นอย่างนี้ละก้อ ถึงไหนถึงกันครับ